Share ทัวร์พม่า 5วัน ทัวร์พม่า มัณฑะเลย์ ทัวร์พม่า 5มหาบูชา ทัวร์พม่าราคาถูก
ทัวร์พม่า 5วัน ย่างกุ้ง อินทร์แขวน มัณฑะเลย์ พุกาม ครบ 5มหาบูชา
TripCode : BM5D01 (MDL-YGN)
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ : พระราชวังบุเรงนอง พระธาตุมุเตา พระธาตุอินทร์แขวน มิงกุน เจดีย์ชินพิวเม ชเวนันดอว์ จอง วัดกุโสดอ พิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี พุกาม - เจดีย์ชเวสิกอง อนันทวิหาร พระนอนชเวตาเลียว เจดีย์ธรรมะยังจี มนูหา เทพทันใจ พระเกศาธาตุ เจดีย์โบตะทาวน์ พระนอนตาหวาน พระเขี้ยวแก้ว พระหินอ่อน ปางช้างเผือก
นับวันพม่าก็ยิ่งแพงขึ้นทุกวันๆ จากที่ 1 บาท แลกได้ 40 จั๊ต มาวันนี้ (สค. 2555) เหลือแค่ 22 จั๊ต แล้วข้าวของทุกอย่างในพม่าจะแพงขึ้นขนาดไหน ไหนจะความครึกโครมของการเห่อ ลงทุนพม่า ที่เนื้อหอม ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกเข้ามา ก็ดึงค่าใช้จ่าย โรงแรม อาหาร สำหรับบริการต่างชาติเป็นว่าเล่น และเล่นกันแรง อัพเดทรายเดือน เต็มกันไม่ง้อส่วนแบ่งตลาดคนไทยเช่นที่ผ่านๆมาแล้ว ใครยังจำทัวร์พม่า เมื่อปีที่แล้ว 4วัน หมื่นต้นๆ เมื่อปีที่แล้ว วันนี้หาต่ำกว่า 2 หมื่น คงเป็นไปไม่ได้แล้วหละครับ
ผมเลยคิดโปรแกรมทัวร์ที่เหมาะ รวบรัดกระชับ อัพเดท เที่ยวได้ครบ 5 มหาบูชาสถานของพม่า ใช้เที่ยวบินตรงจาก กทม - มัณฑะเลย์ ของแอร์เอเชีย ประหยัดเวลาบิน 2 ต่อ ประหยัดงบประมาณลง
ใครๆ ก็จัดทัวร์พม่ากันมากมาย แต่หากลองพิจารณากันดีๆแล้ว มีน้อยบริษัทมาก ที่จะจัดการเดินทางในพม่า อย่างเข้าถึง เข้าใจทั้งในด้านความศรัทธา และ ประวัติศาสตร์ จุดเด่นข้อดีของการได้มาพม่า ความอัศจรรย์ อลังการ ของพม่า ไม่ว่าจะเป็น การไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอาบแสงทุ่งทะเลเจดีย์ของพุกาม การอยู่รอพิธีล้างหน้าพระมหามุนีจนเสร็จและได้เข้าไปปิดทอง การเข้าชมพระธาตุอินทร์แขวนให้ครบ 3 ครั้ง เย็น ค่ำ เช้ามืด ชมแสงสีทองช่วงค่ำของเจดีย์ชเวดากอง
อีกอย่างก็คือการเลือกสเปคของแพคเกจทัวร์พม่า ช่วงนี้แข่งขันกันแรงมากๆ แต่จะดูอย่างไร ให้ได้ทัวร์พม่าที่คุ้มค่านะครับ
- ชื่อโรงแรม เพราะว่านับตามดาวไม่ค่อยได้แล้วครับ ชื่อโรงแรมเดียวกัน ผมเคยเห็นทัวร์พม่าเค้าโฆษณากันว่าเป็น 4 ดาว บ้างก็ 5 ดาว สรุปว่าเอาชื่อโรงแรมเป็นหลักครับ เพราะ ราคาน่ะโรงแรมมันเปลี่ยนทุกเดือนครับ ราคา 5 ดาว ได้โรงแรม 4 ดาวก็มีครับ
- รวมค่าเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนแล้วหรือยัง ค่าเสลี่ยงมันก็จะประมาณ 8,000 จั๊ต บอกไว้คร่าวๆนะครับ ช่วงนี้ราคาพม่าขึ้นๆลงๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกก็เป็นได้
โปรแกรมการเดินทาง
[B=Breakfast อาหารเช้า / L=Lunch อาหารกลางวัน / D=Dinner อาหารเย็น]
วันแรกของการเดินทาง (กทม - มัณฑะเลย์ - มิงกุน - ชเวนันดอว์ - กุโสดอ - พระราชวังมัณฑะเลย์)[L-D]
06.50 น. นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง เช็คอินเที่ยวบินของ Air Asia FD2760(8:50-10:15) หลังจากลงประทับตราวีซ่าเข้าเมือง เช็คกระเป๋าสัมภาระกันแล้ว พบกับไกด์ชาวพม่า (พูดไทย) แล้วจึงออกเดินทางสู่ท่าเรือ ริมแม่น้ำอิระวดี เพื่อข้ามสู่มิงกุน อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรพม่าในสมัยพระเจ้าปดุง ใช้เวลาอยู่บนเรือประมาณ 1 ชม. ชมวิว และ วิถีชีวิตของแม่น้ำอิระวดี แม่น้ำอันดับ 1 ของประเทศพม่า จนกระทั่งถึงท่าเรือมิงกุน เที่ยวชม เจดีย์มิงกุน อดีตความฝันที่อลังการ เมื่อพระเจ้าปดุง คิดหมายจะสร้างเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหากสร้างเสร็จจะสูงถึง 150 เมตร และ จะสูงและใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเจดีย์มิงกุนแห่งนี้ สร้างได้เพียงชั้นแรก ก็แตกหักลงมาเหลือทิ้งไว้เพียงภูเขาซากอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ สิงห์คู่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หันหน้าออกสู่แม่น้ำอิระวดี(พังแล้วเหมือนกัน) และ จากนั้นถัดไป ระฆังมิงกุน ระฆังที่ยังใช้งานได้ใหญ่ที่สุดในโลก เรื่องน้ำหนักรองแค่ระฆังเครมลิน ระฆังมิงกุนนั้นใหญ่จนเราสามารถเข้าไปถ่ายรูปหมู่ได้ทั้แองคณะ และยังเคยให้เด็กๆเข้าไปยืนใต้ระฆังได้ถึง 100 คนอีกด้วย หลังจากนั้นเที่ยวชม เจดีย์ชินพิวเม หรือ เจดีย์เมี๊ยตะมาน ที่เปรียบได้กับ ทัชมาฮาลแห่งพม่า ประวัติศาสตร์พม่าเล่าว่า เจดีย์ชินพิวเม สร้างโดยพระเจ้าบากะยีดอว์พระองค์สร้างให้พระมหาเทวีชินพิวเม ที่ถึงแก่พิราลัยก่อนวัยอันควร เพื่อเป็นการรำลึกถึงนาง สร้างขึ้นในปี2359 ตามหลักความเชื่อที่ว่าเขาพระสุเมรเป็นแกนกลางของจักรวาลล้อมรอบด้วยมหาสมุทร เที่ยวชมเจดีย์ชินพิวเมแล้วจึงกลับสู่ ท่าเรือมิงกุน ใช้เวลาอีก 1 ชม. กลับสู่มัณฑะเลย์ตามสายน้ำอิระวดี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ที่ ภัตตาคารโกลเด้นดั๊ก ( อาหารจีน ) หรือ ภัตตาคารโก้ คิทเช่น ( อาหารไทย ) แต่ก็อาจสายบ้างเลทบ้างไรบ้าง ขึ้นกะไฟล์ทกะเรือนั่นหละครับ
บ่าย เที่ยวชมอดีตความรุ่งเรืองของเมืองมัณฑะเลย์ อดีตพระราชวัง อาคารเดียวที่รอดจากการไฟไหม้ ของพระราชวังมัณฑะเลย์ ที่พระเจ้ามินดุง ยกอาคารหลังเก่า ถอดตำหนักไม้สักแกะสลักเก่า ที่ไม่ใช้แล้ว ถวายให้วัด และสร้างพระราชวัง ตำหนักต่างๆ ให้สวยขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ถูกอังกฤษเข้าจู่โจม เผาทำลายพระราชวังไม้สักแกะสลัก ปิดทอง นับสิบตำหนักในเขตพระราชวังจนหมดสิ้น เหลือของแท้ดั้งเดิมฝีมือช่างมัณฑะเลย์ไว้เพียงอาคารเดียว ที่วัดชเวนันดอว์จอง แห่งนี้เท่านั้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราอ้าปากค้างถึงความวิจิตรอลังการของความอ่อนช้อย ของศิลปะแห่งมัณฑะเลย์ และ อีกวัดที่สุดในโลก ก็อยู่ไม่ไกล วัดกุโสดอ ที่มี พระไตรปิฎก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมัณฑะเลย์นี้เองเคยเจริญรุ่งเรืองถึงขั้นทำสังคยานาพระไตรปิฎก โดยเชิญพระสงฆ์ผู้มีความรู้จากทั่วทุกทวีปเข้ามาทีมัณฑะเลย์ เมื่อสมัย พระเจ้ามินดุง และ ทำการสังคยานาพระไตรปิฎก และ ได้จารึกพระไตรปิฏกนั้นเอาไว้บนแผ่นหินอ่อนถึง 729 แผ่น และสร้างมณฑปเจดีย์ครอบเอาไว้อย่างสวยงามและอลังการเพื่อให้พระพุทธศาสนา ดำรงอยู่สืบไป นับเป็นพระไตรปิฎกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่ 1 ใน 2 ร้านที่ระบุเมื่อกลางวันหละครับ เข้าสู่ที่พักในมัณฑะเลย์ Queen Hotel หรือ เทียบเท่า

เจดีย์ชินพิวเม พระมหามัยมุนี พระธาตุชเวสิกอง
|
วันที่สองของการเดินทาง (พิธีล้างหน้าพระมหามัยมุนี - พุกาม - พระธาตุชเวสิกอง - อานันทวิหาร - มนูหา - นันปะยา - กู่เป้าจี - เจดีย์ธรรมะยังจี - โลกะเตคปาน - ชเวซานดอว์)[B-L-D]
เช้ามืด มาพม่า ไม่ตื่นเช้ากันหน่อยก็ไม่ได้ชมของดีๆหละครับ ตี4 เราก็ควรออกจากโรงแรม มุ่งหน้าสู่วัดพระยะไข่ ชมมหาสักการะบูชา แห่งที่ 4 พระมหามัยมุนี หรือ พระยะไข่ คนไทยเรียกพระเนื้อนิ่ม องค์พระศักดิ์สิทธิ์อันดับ 1 ของพม่า ที่ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้า ประทานพร หรือ ลมหายใจ ให้พระมหามัยมุนีองค์นี้ ดำรงพระพุทธศาสนา แทนพระองค์สืบมา ซึ่งพระมหามัยมุนีองค์นี้ พระเจ้าปดุงได้อัญเชิญมาหลังจากได้พิชิตแคว้นยะไข่ และด้วยความที่พระมหามัยมุนี มีลมหายใจขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้านี่หละครับ ชาวพม่าก็เปรียบท่านราวกับมีชีวิต ทุกๆเช้าต้องให้องค์พระมหามัยมุนี ตื่นมาด้วยความสดชื่น จึงมีพิธีการล้างหน้าพระมหามัยมุนีขึ้นทุกเช้ามืด โดยเจ้าอาวาสของวัดยะไข่นี้ จะเป็นผู้ทำพิธี ล้างพระพักตร์ของพระมหามัยมุนีด้วย น้ำหอม และ แป้งตะนาคา แปรงฟัน และ นำผ้าของพุทธศาสนิกชนที่ศรัทธา มาเช็ดหน้าองค์พระ พระมหามัยมุนี องค์นี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่ามาแต่ครั้งโบราณ องค์พระทำด้วยทองคำงามอร่าม และ กษัตริย์ ราชนิกูล ผู้ร่ำรวยและศรัทธา จะถวายเครื่องทรงทองคำ เครื่องประดับอัญมณีมีค่าต่างๆคล้องอยู่แทบเต็มองค์ แต่ว่าเราสามารถอยู่จนเค้าเปิดให้เข้าไปปิดทอง องค์พระมหามุนีได้หรือไม่นั้น ขึ้นกับไฟล์ทบินที่เราได้เช้านี้นะครับ
เช้า เดินทางสู่สนามบินมัณฑะเลย์ (ยังไม่ระบุไฟล์ทบิน) เดินทางสู่พุกาม ( Bagan ) ใช้เวลาบิน 35 นาที แล้วเดินทางสู่ พระธาตุชเวสิกอง หรือ ชเวสิกน มหาเจดีย์ เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่พระเจ้าอโนรธา หรือ พระเจ้าอนิรุธ มหาราชองค์แรกของแผ่นดินพม่า ที่ตั้งราชธานีแห่งแรกอยู่ที่ อาณาจักรพุกามแห่งนี้ ตำนานของ เจดีย์ชเวสิกองมีอยู่ว่า ราว 960 ปีก่อน ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุ พระเขี้ยวแก้ว และ พระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธาจึงได้ตั้งจิตอธิฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใดจะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น ทีเมืองพุกามแห่งนี้ เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า ทุ่งเจดีย์ หรือ ทะเลเจดีย์ ซึ่งเคยมีบันทึกอยู่ถึงกว่า หนึ่งหมื่นเจดีย์ แต่ปัจจุบันคาดว่า มีประมาณ 5 พันกว่าเจดีย์ และ ยืนหยัดบนดินแดนสุวรรณภูมิ พม่าแห่งนี้มากว่าพันปี ฉะนั้นจึงเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ชั้นเยี่ยมของแผ่นดินพม่า ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมานับครั้งไม่ถ้วน และ อนันทวิหาร เจดีย์วิหารที่ยิ่งใหญ่อลังการสวยงาม นับเป็นวิหารที่มีคุณค่าในสถาปัตยกรรมออกแบบ เจดีย์+วิหาร ที่เป็นต้นแบบของเจดีย์ในพุกามในเวลาต่อมา
กลางวัน ทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร Green อยู่ริมแม่น้ำอิระวดีพักสายตาหลบร้อน
บ่าย เราไปต่อกันที่ พระอึดอัด มนูหา พระองค์ใหญ่ที่สร้างโดยพระเจ้ามนูหะ(พระเจ้ามกุฏ) และแนะนำให้เดินพ่วงไป วิหารนันปะญา หรือ นันพญา ชมรูปสลักพระอวโลกิเตศวร นูนต่ำด้วยหินทรายคล้ายกับศิลปะนครวัดเจดีย์ธรรมะยังจี เจดีย์ที่เกือบจะยิ่งใหญ่ที่สุดของพุกาม ถ้าไม่ติดว่าแผ่นดินไหวพังลงมาซะก่อน สร้างโดย พระเจ้าอลองสินธุ เจดีย์แห่งนี้ อิฐจะถูกเรียงชิดกันกระทั่งเข็มสอดไม่เข้า เจดีย์โลกะเตคปาน ห้องวิหารเล็กๆ ที่มีภาพเขียน ยมกปาฎิหารย์ ตำนานแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นศิลปะเก่าแก่หาดูได้ยาก เจดีย์ชเวซานดอว์ และ พระนอนชเวซานดอว์สำหรับการปิดท้ายวัน ชมพระอาทิตย์ตก วิวทุ่งทะเลเจดีย์ ที่สวยงามที่สุดของพุกาม ซึ่งจะมองเห็น ทุกเจดีย์ที่ชมมาวันนี้ โผล่มาอวดความยิ่งใหญ่เหนือผืนป่าสีเขียว แต่วิวสวยๆต้องเดินขึ้นบันไดกันหน่อยนะครับ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร นันดา รับประทานอาหารพร้อมชม โยะเถว่ หุ่นกระบอกพม่า ต้นตำหรับพุกาม ที่มีการเคลื่อนไหวข้อต่อได้มากมายหลากหลายคล้ายกับคนทุกอย่าง และ เรื่องราวตอนสั้นๆ สนุกกึ่งลามกก็มีนะครับ จากนั้นเข้าสู่ที่พักที่ Bagan Hotel หรือเทียบเท่า ในพุกาม

ทะเลเจดีย์ พุกาม อานันทวิหารเจดีย์ พระธาตุมุเตา |
วันที่สามของการเดินทาง (ย่างกุ้ง - พะโค - พระราชวังบุเรงนอง - พระธาตมุเตา – อินทร์แขวน)[B-L-D]
เช้า จากพุกามบินสู่ย่างกุ้ง และจากเมืองหงสาวดี ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. เมื่อถึงเมืองหงสาวดี หรือ พะโค ( Bago ) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพม่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองสมัยพระเจ้าบุเรงนอง ตามประวัติศาสตร์ว่าเมืองนี้เคยเป็นของมอญ ก่อนจะโดนยึดโดยพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ กษัตริยพม่าผู้โหดเหี้ยม เข้าชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งแรกกันที่ พระราชวังบุเรงนอง พระราชวังที่ทรงสร้างขึ้นสวยงามโดดเด่นเป็นสีทองเหลืองอร่ามและเคยมีความสำคัญ คือ ใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ทั้งซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกันอีกด้วย และ ถัดมาก็เป็น 1 ใน 5 มหาสักการะ ของพม่า นั่นก็คือ พระธาตุมุเตา หรือ ชเวมอดอว์ มหาธาตุเจดีย์ที่สูงที่สุดในแผ่นดินพม่า เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองที่เชื่อกันว่าบรรจุ พระสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าไว้ และใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระกรรณของพระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ เมื่อครั้งพระองค์ขึ้นครองราชย์ และในรัชกาลต่อมา คือ พระเจ้าบุเรงนอง ได้มีการสร้างฉัตรถวายเพิ่มเติมอีกหลายชั้น จนพระมหาธาตุสูงขึ้นอีกหลายเท่า และทรงถอดมณีที่ประดับยอดมงกุฎ ของพระองค์ถวายเป็นพุทธบูชาสูงสุด อีกทั้งกล่าวกันว่าก่อนที่พระองค์จะออกทำศึกคราใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันจุดที่เชื่อว่าพระองค์ทำการสักการะก็ยังปรากฏอยู่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคารเมือง พะโค เมนูกุ้งย่าง ให้สมกับที่มาถึง ย่างกุ้ง สักที
บ่าย เดินทางต่อสู่ คินปุนแคมป์ ที่เราจะต้องเปลี่ยนเป็น รถหกล้อ หรือชื่อเล่นว่า รถขนหมู เป็นพาหนะภาคบังคับของคนที่จะขึ้นสู่พระธาตุอินทร์แขวน ( แต่ไม่ต้องห่วงครับ ส่วนใหญ่ไกด์เราจะจองให้นั่งด้านใจรถหรือ แถวหน้าๆ นั่งหลวมๆ แถวเค้าอัด 8 คน เรานั่ง 5-6 คนก็พอ ) จับแน่นๆ บนหนทางคดเคี้ยว 45 นาที แล้วจากนั้นก็ต่อ เสลี่ยง 4 คนหามไปต่ออีก 2.5 กม. ( เค้าหาม 30นาที เตรียมทิปให้พอดี คนหาบเสลี่ยงให้หาร 4 ลงตัวด้วยนะครับ 200 บาท/เที่ยวกำลังเหมาะ ) เข้าสู่โรงแรมที่พัก 1 ใน 2 แห่งใกล้พระธาตุอินทร์แขวน เอาของไปเก็บแล้วรีบไปไหว้พระธาตุ ชมพระอาทิตย์ตกที่มองเห็นแม่น้ำสะโตง แสงสีทองยามเย็นตกกระทบก้อนหินพระธาตุสีทองอร่ามจากเปลวทองของผู้ศรัทธา
เย็น รับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรม อาบน้ำอาบท่า แล้วเราเข้าไปไหว้พระธาตุอินทร์แขวน 1ใน 5มหาบูชา นี้อีกครั้งใครต้องการ นั่งสมาธิหน้าพระธาตุ สวดมนต์ เวียนเทียน ปิดทอง ก็อย่าลืมเสื้อกันหนาวนะครับ บางท่านไม่ยอมกลับห้อง อยู่เฝ้าพระธาตุจนสว่างเลยด้วยซ้ำครับ
**ควรแยกสัมภาระกระเป๋าเล็กมาจากสนามบินเลยครับ มานอนบนพระธาตุแค่คืนเดียวกระเป๋าใหญ่ฝากไว้ที่รถได้ครับ**
 .jpg) .jpg)
พระธาตุอินทร์แขวน พระราชวังบุเรงนอง พระไจ้ท์ปุ่น |
วันที่สี่ของการเดินทาง(พระธาตุอินทร์แขวน - พะโค - พระนอนชเวตาเลียว - ไจ้ท์ปุ่น -เจดีย์ชเวดากอง)[B-L-D]
เช้ามืด มาสักการะ และชมทะเลหมอกยามเช้าที่องค์พระธาตุอีกครั้ง จะได้ครบ 3 ครั้งของการสักการะ ( ชาวพม่าเชื่อว่าในชีวิต ต้องมาไหว้ให้ได้อย่างน้อย 3 ครั้ง ของเราเล่น 3 in 1 Time เลยครับ ) มาดูประวัติตำนานของพระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ้ทีโยนี้กันหน่อยดีกว่าครับ ตามตำนานเล่ากันว่า มีฤๅษีองค์หนึ่งซ่อนพระเกศาที่ได้รับมาจากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้นมาโปรดสัตว์ในถ้ำไว้ในมวยผมมาเป็นเวลานาน เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะต้องละสังขารจึงตัดสินใจมอบพระเกศาให้กับพระเจ้าติสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรของลูกศิษย์ที่นำมาฝากให้ฤๅษีช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก แต่ก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหาก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายศีรษะของฤๅษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหาจากใต้สมุทรนำมาวางไว้ที่หน้าผา(มี 2 ตำนาน คล้ายกัน ยกมาเล่าให้ฟังเพียง 1)
เช้า หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม แล้วก็นั่งเสลี่ยง 4 พม่าหาม และ รถขนหมูกลับมาที่คินปุนแคมป์ แล้วเราก็เดินทางกลับสู่ เมืองหงสาวดี หรือ พะโค
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคาร เมืองหงสาวดี
บ่าย นมัสการพระนอนชเวตาเลียว ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากพระธาตุมุเตา เชื่อกันว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพาน และ จากนั้น จึงไปขอพร เรื่องเนื้อคู่กันที่ ไจ้ท์ปุ่น พระ 4 ทิศ ของเมืองหงสาวดี ที่มีตำนานว่า เกิดจากแรงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของ 4 สาวพี่น้อง จึงร่วมกันสร้างพระพุทธรูปแทนตนขึ้นมาโดยให้สัจจะว่า ชาตินี้จะไม่ครองคู่ แต่แล้วน้องคนเล็กได้เกิดพบรักและแต่งงานไป จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวน้องคนเล็ก ซึ่งปัจจุบันได้มีการบูรณะซ่อมแซมอย่างที่เราเห็น โดยมีความเชื่อว่าหากใครไปขอพรเรื่องเนื้อคู่จะสมหวัง แต่ขอให้ถูกรูปนะครับ จากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่ย่างกุ้ง และ สักการะ มหาบูชาที่ 3 ใน 5 ของพม่า และ เป็นมหาบูชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เจดีย์ชเวดากอง เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะสวยงามมาก เนื่องจากด้วยศรัทธาของชาวพม่า จึงมักจะนิยมบริจาคเพชรพลอยของมีค่าต่างๆ เพื่อประดับพระเจดีย์ ทำให้เจดีย์องค์นี้มีเครื่องประดับมีค่าเป็นจำนวนมากกว่า 5,000 ชิ้น โดยเฉพาะเพชรที่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์นั้น ใหญ่ขนาดประมาณฝ่ามือเลยทีเดียว เราจะอยู่ชเวดากองจนถึงค่ำๆ เลยนะครับ ช่วงเวลาสวยที่สุดคือ 4-5 โมงเย็น จนไปถึง 1-2 ทุ่มครับ มาดูความศรัทธา ความสวยงามของเจดีย์แห่งนี้เท่าไหร่ก็ไม่เบื่อครับ ไหนจะต้องไหว้พระประจำวันเกิด ไหว้มหาเจดีย์ประจำราศี อธิษฐานขอพร และ จุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ เท่านี้ก็นานลืมหิวไปเลยครับ
เย็น ก็มักจะรู้ตัวว่าหิวตอนออกจากชเวดากองแล้วนั่นหละครับ มื้อนี้ขอจัดเต็มด้วยโต๊ะจีน พร้อมเป็ดปังกิ่ง และ สลัดกุ้งมังกร ( เซ็ตเต็มต้อง 8 ท่านขึ้นไป และ ขอเปลี่ยนเข้ามาแทนการเวก ที่อาหารห่วยลงทุกวัน ) จากนั้นจึงเข้าสู่ที่พัก Kan Daw Gyi Hotel

พระธาตุชเวดากอง พระนอนตาหวาน เทพทันใจ |
วันที่ห้าของการเดินทาง (ย่างกุ้งทัวร์ - โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เจ๊าทัตจี - วัดช้างเผือก - พระหินอ่อน -กทม.)[B-L]
เช้า นมัสการพระเกศาธาตุ เจดีย์โบตาทาวน์ เทพทันใจนี่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทยเลยครับ เค้าว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ขอแล้วได้ทันใจอยากเลยทีเดียว และยังมี พระนอนตาหวาน เจ๊าทัตจี พระนอนที่ดวงตาสวยงามมาก ขอพรสำหรับท่านที่มีปัญหาสุขภาพสายตา และต่อจากนั้นยังมี พระเขี้ยวแก้ว จากประเทศจีน ให้นมัสการ และมีอีก คือ พระหินอ่อน องค์ใหญ่ที่สุดที่สลักจากหินอ่อนก้อนเดียวจากมัณฑะเลย์ และปิดท้ายที่ปางช้างเผือก ของพม่า ช้างเผือกผิวสีชมพู ที่ถูกต้องตามตำราคชลักษณ์ หลังแบน หัวโต ตาน้ำข้าว หูใบโพธิ์ ผิวสีชมพู อยู่ถึง 3ตัว ซึ่งแม้แต่ในประเทศไทยดินแดนแห่งช้างเผือกยังหายากเลยครับ
เย็น โปรแกรมทุกอย่างในย่างกุ้ง เท่าที่เวลามีและจัดไปตามความน่าเที่ยว จนกระทั่งได้เวลาเช็คอินที่สนามบิน FD2754(17:40-19:25) บินกลับสู่ประเทศไทยนะครับ
** หมายเหตุ โปรแกรมอาจจะสามารถสลับ ตัด เปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ตามความเห็นของผู้นำทัวร์ และ ไกด์ท้องถิ่นโดยเน้นประโยชน์ของสมาชิกร่วมทริปทุกท่านเป็นหลัก
ค่าใช้จ่าย XX,000 บาท / ท่าน
** ถ้าต้องการแพกเกจทัวร์ สมบูรณ์แบบ ในกรุ๊ป 15 ท่าน กรุณาสอบถามได้โดยตรง 089-6367666
ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึง
- ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กทม. - มัณฑะเลย์ - ย่างกุ้ง - กทม.
- ค่าวีซ่า และ ค่าดำเนินการขอวีซ่าพม่า
- ตั๋วเครื่องบิน ภายใน 2 เที่ยว (มัณฑะเลย์ – พุกาม/พุกาม - ย่างกุ้ง )
- ค่าโรงแรม 4 คืน ในระดับ 3-4 ดาว เน้นสะอาด ในทำเลดี ไม่ได้หรูหรานะครับ พักเดี่ยวเพิ่ม X,X00 บาท
- อาหารทุกมื้อที่ระบุ ในโปรแกรมเดินทาง
- รถพาหนะ ปรับอากาศ เดินทางตลอดเส้นทาง
- ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่ง ตามโปรแกรม (ไม่รวมค่านำกล้องเข้าสถานที่)
- ค่าเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมถึง
- ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์ ซักรีด โทรศัพท์ ของโรงแรม
- ค่าทิปตอบแทนไกด์ 2 Usd และ คนขับรถ 2 Usd (ประมาณ 4 Usd /ท่าน/วัน)
- ค่าทิปคนแบกเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
การทำวีซ่า จัดส่ง(หรือนัดรับ) หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่มีอายุเหลือ มากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทาง) มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า และ รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 รูป(หน้าตรงไม่สวมแว่น พื้นหลังสีขาวเท่านั้น ) มาที่
การเตรียมตัวเดินทาง
- ควรเตรียมเสื้อผ้า มี เสื้อกันหนาวติดไปสักตัว สำหรับบนเขาเช่น พระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งอากาศหนาวเย็นตลอดปี (10-25 องศา) แต่สถานที่อื่นๆ ภูมิอากาศเหมือนเมืองไทยครับ รองเท้าแตะ การแต่งตัว
- อุณหภูมิ ทั่วไปประมาณบ้านเรา แต่ที่กลางแดด อุณหภูมิอาจจะ 35-40 องศาอย่าลืม พกครีมกันแดด หมวก พัดลมมือถือ และ เสื้อกันหนาว นะครับ
- การแลกเงิน ควรแลกเงินดอลลาร์จากเมืองไทย ก่อน เดินทาง โดย แลก ธนบัตรดอลล่าร์ 100Usd สำหรับ แลกเงินเป็นเงินจั๊ต สำหรับใช้จ่ายทั่วไป (แลกเป็นเงินจั๊ตที่สนามบิน หรือไกด์จะพาไปแลกครับ เมื่อเดินทางถึงพม่า (สามารถฝากทีมงานแลกเงินดอลลาร์ได้ สะดวกและประหยัดกว่านะครับ โทรสอบถาม 089-6367666)
สาธารณูปโภค
- โรงแรม ในทริปนี้ เป็นระดับ 3-4 ดาว ทั้งหมด 4 คืน
- ไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าในพม่าเป็นระบบไฟฟ้า 220 V 50-60Hz และ รูปแบบปลั๊กเหมือนเมืองไทย